เมืองพัทยาลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทิ้งขยะลงคลองนกยาง พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่พัทยา

ฉบับที่ 429/60 ประจำวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560
เมืองพัทยาลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทิ้งขยะลงคลองนกยาง พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่พัทยา
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายเดชา โชคโสภณกูล ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา นายประพันธ์ ประทุมชมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางละมุง ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง ผบ.หมวด รส.อ.บางละมุง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักการช่าง เจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมลงพื้นที่บริเวณคลองนกยาง เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทิ้งขยะลงในคลองของชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณคลองนกยางโดยรอบ หลังจากครบกำหนด 15 วันที่ได้ขอความร่วมมือให้ชาวบ้านดำเนินการเก็บขยะในคลองภายในบริเวณที่พักอาศัยของตน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองดังกล่าว โดยนายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าปัญหาดังกล่าวในครั้งนี้พบว่าชาวบ้านให้ความร่วมมือในการจัดเก็บขยะบริเวณบ้านตนเองจนเป็นที่โล่งสะอาดขึ้น 80% ได้ ส่วนในเรื่องสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองนั้น ในเบื้องต้นเราจะดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่เป็นบ้านเช่าก่อน เนื่องจากถือเป็นการหาประโยชน์จากการบุกรุกที่สาธารณะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านพักอาศัยที่เข้าข่ายเป็นบ้านเช่าอยู่จำนวน 20 ราย รวม 79 ห้อง ทั้งนี้ ได้ประสานประธานชุมชนให้ดำเนินการแจ้งแนวทางการดำเนินการของมืองพัทยาในการรื้อถอนกับผู้เช่าอาศัย และให้ทำการจัดหาที่อยู่ใหม่ก่อนเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งจะทำการขุดลอกคลอง เพื่อเปิดทางน้ำไหล ให้สามารถระบายน้ำได้อย่างสะดวกมากขึ้นในช่วงหน้าฝน เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่พัทยาอย่างจริงจัง เราก็เห็นใจประชาชน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมายบ้านเมือง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเพื่อเปิดทางน้ำไหลด้วยเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะทำได้สำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น
ี นอกจากนี้ หลังจากการตรวจสอบติดตามความคืบหน้าบริเวณคลองนกยางเป็นที่เรียบร้อย นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา พร้อมคณะ ได้ไปตรวจสอบพื้นที่ว่างบริเวณด้านหลังวัดช่องลมอีกหนึ่งแห่งตามที่ได้รับการร้องเรียนมายังเมืองพัทยา โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างกำแพงขนาดใหญ่ของวัดช่องลมปิดขวางทางน้ำอยู่ และเป็นที่สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้เมืองพัทยาจะร่วมกับอำเภอบางละมุง ทำหนังสือชี้แจง และเจรจากับทางวัดเพื่อขอความร่วมมือในการเข้าดำเนินการให้ถูกต้องในลำดับต่อไป..