เมืองพัทยาจัดประชุมการจัดทำโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียถนนคนเดินแหลมบาลีฮาย เพื่อเตรียมวางแผนการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
สืบเนื่องจากการประชุมหารือแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมและการป้องกันอัคคีภัยอาคาร 101 ราย ภายใน Walking Street เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และหารือแนวทางการแก้ไขร่วมกันระหว่างเมืองพัทยาและผู้ประกอบการ 101 ราย เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยผลการประชุมนั้นเมืองพัทยาได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียและป้องกันสิ่งปฏิกูลให้เป็นระบบรวมที่มีมาตรฐาน เพื่อไม่ให้เป็นการ ทำลายสิ่งแวดล้อมเช่นที่ผ่านมาอีก ตามนโยบายของ มท. 1 ที่ว่า “ปัญหาเกิดที่ไหนให้แก้ที่นั่น” ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยินดีจะให้ความร่วมมือในการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าว เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นเมืองท่องเที่ยวของเมืองพัทยา จึงเป็นที่มาของโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียถนนคนเดินแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อดูแลและบำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพดี ให้สามารถนำกลับมาใช้ หรือปล่อยออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป โดยล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (30 ส.ค.60) ได้มีการประชุมการจัดทำโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียถนนคนเดินแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีนายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุม และมีนายวิรัตน์ จิระศรีไพฑูรย์ ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดภาพรวมของโครงการ ร่วมด้วยคณะวิศวกรผู้ออกแบบดูแลโครงการฯ จากบริษัท เอ็นริช อินสตรูเม้นท์ จำกัด ร่วมชี้แจงโครงสร้างของระบบ และวิธีดำเนินการ ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้า Walking Street จำนวนกว่า 40 คน เข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุมโรงเรียนเมืองพัทยา 8 (พัทธยานุกูล) เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการร้านค้าภายใน Walking Street ในการจัดการระบบบำบัดน้ำเสียอย่างมีคุณภาพ เพื่อลดมลภาวะน้ำเสียที่ปล่อยลงสู่ทะเล ให้น้ำทะเลมีสภาพที่ดีขึ้น ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน
สำหรับการจัดทำโครงการก่อสร้างระบบดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างเมืองพัทยา ผู้ประกอบการร้านค้า 101 ราย และบริษัท เอ็นริช อินสตรูเม้นท์ จำกัด ด้วยงบประมาณ 31.5 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ทั้งนี้คำนวณโดยคิดตามขนาดของพื้นที่ใช้สอยของสถานประกอบการแต่ละแห่งเพื่อมาคำนวณกับมูลค่างานทั้งหมด โดยผู้ประกอบการจะจ่ายให้ผู้รับจ้างต่อเมื่อคณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติตรวจรับงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วและให้เบิกจ่ายค่าจ้าง ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาการก่อสร้างโครงการประมาณ 180 วัน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบกับแผนดำเนินการดังกล่าว หากแต่ยังมีข้อกังวลว่าหากให้ความร่วมมือในการร่วมลงงบประมาณดำเนินการก่อสร้างระบบไปแล้ว ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายพื้นที่อีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมเพื่อชี้แจงกับผู้ประกอบการทุกรายในพื้นที่ Walking Street อีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนร่วมกันก่อนการลงนามเซ็นสัญญาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป..
**********************
ภาพ : นายปฏิวัติ อารีย์รัตนพิทักษ์
ข่าว : นางสาวขวัญใจ ซื่อตรง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
ส่วนอำนวยการ สำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว
ส่งจากสมาร์ทโฟน vivo ของฉัน
Last modified: 1 กันยายน 2017